เมื่อโลกปราศมนุษย์ [หน้า 3/3]

    เมื่อโลกปราศมนุษย์ [หน้า 3/3]
 
ความทรงจำที่ถูกทิ้งไว้
 

ก๊าซปฏิกิริยาเรือนกระจก หมดสิ้นไป ในช่วงเวลา 600,000 ปี หลังจากมนุษย์ได้
สาบสูญไป ช่างยาวนานเหลือเกิน บรรยากาศโลกดุจดั่ง อัญมณีที่ไร้มลทิน
ท้องฟ้าสดใส ใต้พื้นแผ่นน้ำอุดมไปด้วยสัตว์น้ำที่สมบูรณ์

ชีวะมวลกลับคืนสู่ระบบนิเวศใต้น้ำเกิดความสมดุล สรรพสิ่งมีชีวิตที่เหลืออยู่กลับ
เข้าสู่ระบบวิวัฒนการของธรรมชาติ ท่ามกลางความทรงจำ วัตถุโบราณบางอย่าง
ที่สร้างจากสำริด โดยมนุษย์ดึกดำบรรพ์มาแล้วนับหลายแสนปี
 
ความพิศวงแห่งอาณาจักรใหม่
 

ตอนเวลาที่ผ่านพ้นไป กว่า 10 ล้านปี สิ่งมีชีวิตต่างๆเกิดการพัฒนาการต่อเนื่อง
ยกเว้นมนุษย์ที่ระบบได้ขาดหายไปแล้วด้วยความหนาแน่นของอะตอมหลากหลาย
ชนิดที่เกิดขึ้นใหม่ ด้วยความสมมาตรทางเคมี และสนามแม่เหล็กโลกที่สมบูรณ์
แข็งแกร่งศักยภาพของชีวิต

แม้แต่สัตว์ พืชขนาดเล็กจึงมีผลพลอยได้รับพลังงานโมเลกุลไฟฟ้าเข้าไปผสม
ผสานกับเนื้อเยื่อชีวิตเป็นระบบชีวะไฟฟ้า จนสามารถมองเห็นได้ แม้แต่ในที่มืด
สนิท ดังภาพในเทพนิยาย
 
สู่ฉากละครใหม่ ที่ถูกจัดไว้แล้ว
 

ความสงบสุขของสภาพบรรยากาศโลก ได้เดินทางมาถึงฉากใหม่ในช่วงเวลา 1 พัน
ล้านปี หลังจากการสูญสิ้นไปแล้วของมนุษย์ ดวงอาทิตย์ที่เคยเผาผลาญพลังงาน
จากก๊าซภายในแกน ก๊าซเริ่มพร่องและน้อยลง

ทำให้เกิดขบวนการเผาผลาญก๊าซฮีเลียม ก๊าซไฮโดรเจนเกิดขึ้นภายนอกพื้นผิว
ดวงอาทิตย์แทน ความร้อนจึงขยายตัวเข้ามาใกล้โลกมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม 10 เท่า
บริเวณที่เคยมีอุณหภูมิ 30 องศา มีความร้อนเพิ่มขึ้นเป็น 300 องศา

พื้นโลกเริ่มได้รับความร้อนที่รุนแรงมากขึ้นตามลำดับ ต้นไม้ขนาดเล็กแห้งกรอบ ต้นไม้ใหญ่ผิวเริ่มเกรียม มีรอยไหม้เป็นจ้ำๆ เหมือนถ่าน
 
ทะเลเดือด กระทะทองแดงใบใหญ่
 

ทะเลมหาสมุทรกลาย เป็นน้ำร้อนเริ่มแห้งขอด เกิดคราบผลึกเกลือไปทั่วท้องน้ำ
บริเวณบางแห่ง ดุจดั่งกระทะร้อนต้มน้ำรอปรุงอาหาร

ขบวนสัตว์น้ำอพยพหนีตายไปสู่แหล่งน้ำใหม่ ที่มีสภาพดีกว่าแต่ไม่สามารถหนี
ภัยพิบัติเหลือรอดแม้แต่ชีวิตเดียว จากความร้อนซากสัตว์น้ำล่องลอยไปตาม
กระแสคลื่น พัดพาไปเกยตื้นตามโขดหินเกาะแก่งต่างๆมายมาก ตามแนวชายฝั่ง
เต็มไปด้วย กลิ่นเน่าเหม็นรุนแรงตลบอบอวล
 
การเข้ามาเยือนของดินแดนมิคสัญญี
 

ด้วยระยะเวลาที่ไม่นานเกิน 2 พันล้านปี ชีวิตสัตว์พืชต่างๆมลายหายไปเกือบสิ้น
ด้วยความร้อนสูงมาก ส่วนที่สามารถดำรงชีพได้บ้าง เป็นการปรับตัวต่อสู้สภาพ
ความร้อนระอุ อย่างหมดสิ้นหนทาง

ไอความร้อนผสมผสาน กับสารธาตุเคมีอันตราย เกิดเป็นไอกรดธรรมชาติอย่าง
รุนแรง สัตว์ต่างๆแห้งตายไปในที่สุด แต่แบคทีเรียบางชนิดทนต่อความเป็นกรดสูง
และทนความร้อนสูงยังรอดพ้น ยืดเวลาไปได้อีกอย่างไร้จุดหมาย
 
ขุมนรกบนโลก ที่นรกของแท้ยังต้องยอม
 

ช่วงหลังจากดินแดนดินแดนมิคสัญญี จนถึงกลียุค จุดสุดอวสานของโลกภายใน
5 พันล้านปี บนโลกเต็มไปด้วย มหาสมุทร ลาวา ลำธารหินหลอมละลายไหลท่วม
คืบคลานไปทั่ว แบบไม่มีช่องว่างให้หายใจ

สิ่งมีชีวิต สิ่งของทุกประเภทสูญสิ้นไปกับลาวาทั้งหมด โดยไม่ยกเว้นแม้แต่อย่าง
เดียว ดวงอาทิตย์ขยายตัวแบบสุดขั้ว ความร้อนบนโลกเพิ่มนับหมื่นองศา ระบบ
สนามแม่เหล็กโลกไร้ความเสถียร ขาดศักยภาพการต้านทานหายไป

การหมุนของโลกเริ่มส่ายไปมา เหมือนลูกข่างหมดแรง สภาพบรรยากาศที่เกิดขึ้น
ไม่สามารถบรรยายได้ถูกเกิดพลุ่นพล่านจากแรงเดือด ของหินหลอมละลายทั่วไป
ทุกหนแห่ง ขณะนี้ดวงอาทิตย์ใกล้โลกเพียงแต่เอื้อมมือ
 
จุดสูงสุด คืนสู่สามัญ
 
ไม่เพียงแต่โลกเท่านั้น ระบบสุริยะชั้นใน ดาวอังคาร ดาวพุธ ดาวเคราะห์น้อยชั้นใน
ทั่วมวลก็ถึงแก่การอวสานไปด้วย หลังจากนั้นดวงอาทิตย์จะเริ่มเปลี่ยนสภาพเป็น
ดาวยักษ์สีแดง ค่อยๆลดความร้อนลงเป็นสีน้ำตาลด้วยการใช้เวลาอีกนับหลายพัน
ล้านปี จนหดตัวเล็กลงลงเป็น White dwarf (ดาวแคระขาว)

แล้วปรับสภาพตนเอง เป็นดาวเคราะห์ชนิดใหม่ ขนาดเท่าโลก มีสภาพบรรยากาศ
ก๊าซต่างจากโลก เมื่อถึงเวลานั้นระบบสุริยะที่เคยสว่างไสว ดับมืดลงสนิท คงเหลือ
แต่ความหนาวเย็น กลายเป็นระบบสุริยะร้าง ปิดฉากระบบสิ่งมีชีวิตที่ใช้ออกซิเจน
หายใจอย่างถาวร

โลกใหม่ที่ไม่สวยงาม และบรรยากาศก๊าซพิษ ล่องลอยอย่างไร้ทิศทางเนื่องจาก
ขาดระบบแรงดึงดูด ไปสู่ดาวแม่ดวงใหม่คือ ดาวพฤหัส จนปรับสภาพวงโคจรมี
ความเสถียรขึ้น สภาพแวดล้อมเปลี่ยนไปที่ละน้อย ท่ามกลางความมืดสลัว

จนกระทั้งวันหนึ่ง กำเนิด ยุคที่มีสิ่งดำรงชีพรูปแบบใหม่ แทนมนุษย์สามารถอาศัย
อยู่ด้วย ความมืดและความหนาวเย็นได้อย่างไม่น่าเชื่อ ดำรงชีพด้วยก๊าซฮีเลียม
และก๊าซไฮโดรเจนโดยไม่มีอะไรยืนยงเช่นเดิม

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น