ถ้าจะเปรียบให้เข้าใจง่ายขึ้น หลุมดำ นั้นคือวาระสุดท้ายของดาว เป็นการเหลือ
ของซากวิญญาน ที่มีพลังอำนาจมหาศาลและมองไม่เห็น เป็นการเกิดขึ้นจาก
การหลอมละลายนิวเคลียส และระเบิดตนเอง ด้วยการยุบตัวทับถมของมวล
อย่างแทบจะไม่น่าเชื่อหรือแบบเป็นไปไม่ได้ รวมกันสู่จุดที่หนาแน่นเรียกว่า
Singularity Point (จุดศูนย์กลาง พิศวง)
อำนาจของหลุมดำ จัดว่ามีพลังอำนาจร้ายกาจขั้นเทพ สามารถบีบอัดดูดกลืน
สิ่งใดๆให้หายเข้าไปในหลุมดำได้อย่างมหัศจรรย์ แม้กระทั่งแสง ทั้งหมดนั้นคือ
ระบบธรรมชาติของจักรวาลได้สร้างสรรไว้ให้
หลุมดำเป็นมหัตภัยแห่งจักรวาล
หลุมดำ มีอยู่ทั่วไปในจักรวาล มิได้อยู่คงที่ในตำแหน่งเดิม สามารถโคจรเคลื่อน
ตัวไปยังจุดอื่นๆได้ โดยเชื่อว่าใน
ทางช้างเผือก มีหลุมดำอยู่จำนวนหนึ่ง และมี
ความชัดเจนต่อการพบหลุมดำขนาดใหญ่ยักษ์ บริเวณ
ใจกลางทางช้างเผือก
บริเวณ Sagittarius A (SgrA*) ซึ่งเป็นตำแหน่งของหลุมดำ มวลขนาดยักษ์
(Supermassive black hole) ส่วนหลุมดำขนาดเล็ก ข้อมูลการสำรวจยังไม่เป็น
ที่กระจ่างในขณะนี้
เริ่มต้นการตั้งไข่ ของหลุมดำ
ดาวมวลขนาดใหญ่ (Massive star) ช่วงเยาว์วัย ได้สร้างสรรพลังงานจากการ
หลอมละลายนิวเคลียส (Nuclear fusion) ซึ่งเป็นปฏิกิริยาทางนิวเคลียร์ระหว่าง
นิวเคลียสเบาสองตัวมารวมกัน โดยเปลี่ยนแปลงจาก ไฮโดรเจนสู่ฮีเลียม ทำให้
เกิดแสงอันเปล่งปลั่ง เมื่อเชื้อเพลิงไฮโดรเจนในแกนหมดสิ้นลง ดาวเริ่มจะเผา
ผลาญแกนในของฮีเลียม จนถึงเปลือกชั้นนอกของไฮโดรเจน (Outer shell of
hydrogen) จึงทำให้ขอบเขตการเผาผลาญเชื้อเพลิง แพร่ขยายตัวกว้างและใหญ่
โตขึ้นนับร้อยเท่า เป็นการวิวัฒน์สู่ Red supergiant star
(ดาวใหญ่ยักษ์สีแดง)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น