Searching for an ETI Civilization : ตามล่าหา..อารยะธรรมต่างดาว [หน้า 2/2]

 
   Searching for an ETI Civilization :
   ตามล่าหา..อารยะธรรมต่างดาว [หน้า 2/2]
 
 
ครั้งหนึ่งในอดีต พื้นผิวดาวอังคารเต็มไปด้วยน้ำ
 
 
ข้อมูลทางกายภาพ กรณีตัวอย่าง ของ ดาวอังคาร ดาวศุกร์
และโลก ยุคเยาว์วัย
เป็นแนวทางการสืบค้น

ความจำเป็นต่อการสำรวจ สืบค้นอารยะธรรมอื่นอันไกลโพ้น ด้วยการศึกษาข้อมูล
ทางกายภาพของดาวเคราะห์ที่อยู่ใกล้โลก เป็นสิ่งซึ่งอาจบอกได้ถึงความเป็นไป
ได้ในพัฒนาการ และนำมาช่วยวิเคราะห์เปรียบเทียบกับโลกอื่น ที่ค้นพบใหม่ เช่น

กรณีดาวอังคาร (Mars) ยุคเยาว์วัยมีความชื้นและอบอุ่น แต่มีมวลน้อยที่จะค้ำจุน
แผ่นธรณีภาค (Plate tectonics) ส่งผลให้แผ่นธรณีภาค ถูกดึงมุดตัวลงจากระบบ
ของภูเขาไฟ และเกิดก๊าซคาร์บอน ท่ามกลางสภาพอากาศโดยวัฐจักรของหิน
(Rock cycle) เป็นฉนวน ปกคลุมให้พื้นผิวดาวอังคารให้อุ่นขึ้น

ก๊าซคาร์บอนจากการเปลี่ยนแปลงทางเคมี เป็นไอน้ำก่อให้เกิดฝนกรด (Carbonic
acid rain) ตกค้างบนพื้นผิวดาวอังคาร ด้วยเหตุปราศจาก การค้ำจุนแผ่นธรณีภาค
และฝนกรดจำนวนมาก ทำให้หินบนพื้นผิวแปรสภาพ จากการปกคลุมขึ้นของ Carbonates (เกลือของกรดคาร์บอน) ไม่สามารถปลดเปลื้อง ก๊าซคาร์บอนกลับ
คืนสู่ชั้นบรรยากาศได้ การสนับสนุนของระบบภูเขาไฟ ช่วยทำให้ชั้นบรรยากาศ
หมดหายไป จากระบบวัฐจักรของหินดังกล่าวส่งผลทำให้น้ำบนพื้นผิว สูญหายไป
ด้วย การเปลี่ยนแปลงนั้นจึงทำให้ดาวอังคารเย็นและแห้งมาก
 
 
ปัจจุบันดาวอังคารแห้งและหนาวเย็น โดยมีโคลนน้ำแข็งอยู่ใต้ดิน
 
 
กรณีดาวศุกร์ (Venus) ยุคเยาว์วัยมีของเหลวประเภทน้ำอยู่บ้าง แต่วันนี้แสดง
หลักฐานในชั้น บรรยากาศ มีสัดส่วนของ Deuterium (ธาตุไฮโดรเจนชนิดหนัก)
และก๊าซไฮโดรเจน เป็นความชัดเจน ที่แสดงถึงความไม่เพียงพอ ต่อการเคลื่อน
ตัวของแผ่นเปลือกดาวศุกร์ ในทางธรณีวิทยา

ดังนั้นเมื่อไม่มีแผ่นธรณีภาค (Plate tectonics) จึงไม่มีวัฐจักรหิน (Rock cycle)
แต่ความร้อนจาก Radioactivity (กัมมันตภาพรังสี) จากแกนภายในของดาวศุกร์
ก่อตัวขึ้นมีปฎิกิริยาช่วยปลดเปลื้องก๊าซคาร์บอน สู่ชั้นบรรยากาศซึ่งเป็นปริมาณ
ที่ไม่มากนัก ในความเป็นจริงกลับสร้าง ภาวะปฎิกิริยาเรือนกระจก (Greenhouse-
effect)
ขึ้นซึ่งต่างจากดาวอังคาร
 
 
พื้นผิวดาวศุกร์ อดีตมีสัดส่วนของ Deuterium (ธาตุไฮโดรเจนชนิดหนัก)
 
 
ปัจจุบันดาวศุกร์ เกิดภาวะปฎิกิริยาเรือนกระจกอย่างรุนแรง มี Deuterium ในชั้นบรรยากาศ
 
20
สำหรับกรณีของโลก ครั้นยุคแรกนั้น ดวงอาทิตย์สาดแสงสู่โลกเพียง 30% ของ
ปัจจุบัน และยังไม่มีองค์ประกอบของสสารในชั้นบรรยากาศโลก จนกระ่ทั่งโลก
ถูกปกคลุมไปด้วย ก๊าซเรือนกระจก (Greenhouse gases) รักษาระดับความอบ
อุ่นเพียงพอให้เกิดของเหลว ประเภทน้ำ ซึ่งพบหลักฐานย้อนหลังจากหินอายุ 3.9
พันล้านปี

แม้ว่าขณะนั้นอาจยังไม่มี ความเพียงพออย่างสม่ำเสมอก็ตาม แผ่นดินบริเวณทวีป
อัฟริกาใต้ถึงเส้นศูนย์สูตร มีความเย็นจนเป็นน้ำแข็งเมื่อ 2.2 พันล้านปี ที่ผ่านมา
ทำให้บางส่วน เกิดความกดดันขึ้นของออกซิเจน แต่ยังพ่ายแพ้และยุ่งยากที่จะ
เปลี่ยนแปลงก๊าซเรือนกระจกในขณะนั้นให้สู่ความสมดุลได้

ซึ่งต่อมาได้บรรลุผลเมื่อ 600 ล้านปีที่ผ่านมา โดยได้กำเนิดระบบสิ่งมีชีวิตขนาด
เล็กขึ้นในยุคนั้น เรื่องราวต่างๆ ของข้อมูลด้านสภาพแวดล้อมจากประวัติศาสตร์
กำเนิดระบบสิ่งมีชีวิตบนโลก เท่าที่ทราบขณะนี้ยังไม่เป็นที่น่าพอใจ เพราะก่อน
หน้านี้โลกปราศจากสิ่งใดเลย ความมากมายที่เกิดขึ้นภายหลังอีกหลายประการ
ที่มนุษย์ยังไม่ทราบ

ดังนั้นความเป็นจริงของผืนดิน ในระบบสุริยะเป็นสิ่งที่ต้องค้นหา ไม่ใช่เพียงดาว
เคราะห์ เพราะอาจจะพบข้อมูล และปรากฎการณ์ของสิ่งมีชีวิตใต้ผืนดิน หรือใต้
ผืนน้ำแข็งได้

ทั้งนี้จะไม่ทราบจนกระทั่งเมื่อได้เห็น ข้อมูลด้านศักยภาพของผืนแผ่นดินนั้นๆ
ก่อนซึ่งเชื่อว่าใต้แผ่นดินน้ำแข็งของ ดวงจันทร์ Europa และ ดวงจันทร์ Callisto
รอความท้าทายการค้นหา อาจแสดงสภาพแวดล้อมที่มีศักยภาพ มีความสามารถ
ที่อาจดำรงชีพได้
 
 
ดวงอาทิตย์สาดแสงสู่โลกยุคแรกเพียง 30% ของปัจจุบันและชั้นบรรยากาศยังไม่สมบูรณ์
 
 
โลกเริ่มต้นยุคน้ำแข็ง
 
 
การสื่อสารระยะไกล ในทางวิศวกรรมศาสตร์

ขณะการค้นหาผืนแผ่นดินบนดาวเคราะห์ และดวงจันทร์ ยังคงดำเนินต่อไปโดย
วิธีดังกล่าวต้องใช้เทคโนโลยีชั้นสูง ต่อการเดินทางข้ามอวกาศ ไปยังดาวดวงนั้น หรือระบบการค้นหา ที่จำเป็นต้องใช้เวลาพัฒนาการอีกนาน

แต่การค้นหาด้วยวิธี Interstellar communication engineering (การสื่อสาร
ข้ามดวงดาวในทางวิศกรรมศาสตร์) จึงเป็นหนทางถูกนำมาใช้ เพื่อการติดต่อ
ระยะไกลโพ้น เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายและไม่เสี่ยงภัยอันตราย

เฉพาะอย่างยิ่งรูปแบบ Microwave และ Optical bands โดยใช้จังหวะความถี่
แบบต่อเนื่อง แม้จุดรวมแสง (Focusing) ยังอาจเป็นปัญหาต่อระบบการ ส่งผ่าน
(Transmission) และระบบการตอบรับ (Receiver) ที่สืบค้นตามเกณฑ์ของ
บริเวณตำแหน่งสำคัญ

เรื่องนี้จะสัมฤทธิ์ผล เมื่อแถบคลื่นทั้งสองของลำแสง มีปฎิกิริยาสัญญานแจ้ง
เตือน (Beacons) โดยมีเป้าประสงค์บริเวณที่สันษิฐานไว้ คือบริเวณ Habitable
zone (เขตที่สามารถดำรงชีพได้)

ซึ่งมีเงื่อนไขตรวจกลับอีก พร้อมเก็บข้อมูล อย่างเป็นแบบแผน และเปรียบเทียบ
สัญญานตอบสนอง จังหวะความถี่แบบต่อเนื่อง การทวนสัญญาน Microwave
band อย่างเต็มรูปแบบ เป็นสิ่งที่ต้องเข้าใจในเทคโนโลยี Mathematics of
antennas (ค่าทางคณติศาสตร์ของการรับคลื่นระยะไกล) และค่าสัญญานรบ
กวน (Signal-to-noise) ขณะรอคอยแต่ละช่วงซึ่งมีความละเอียดอ่อน

ต้องกำหนดให้เหมาะเจาะในการสืบค้นโดย Infrared และ Optical bands ซึ่งเป็น
สิ่งที่จะนำมาใช้ในอนาคต ของ Laser technology (ลำแสงกล้าเดินทางเป็นคลื่น
ในทิศทางเดียว) ซึ่งจะเพิ่มอำนาจและความเหมาะเจาะ พร้อมคำนวณค่าสัญญาน
รบกวน ทำให้ง่ายต่อการส่งผ่านและตรวจจับสัญญาน

ซึ่งสามารถศึกษารูปแบบและพัฒนา การสื่อสารระยะไกลโดยมีเทคโนโลยีทาง
วิศวกรรมได้อย่างต่อเนื่อง และได้กระทำขึ้นมาแล้วนับสิบปี ตลอด 24 ชั่วโมง
การสืบค้นดังกล่าวช่วยลดเวลาและค่าใช้จ่ายเป็นอย่างมาก เพียงแต่คงเฝ้ารอ
คอยตรวจสอบสัญญานที่น่าสงสัย หรือมีแนวโน้มที่น่าสนใจต่อไป
 
 
็Allen Telescope Array เพื่อโครงการสืบค้นสิ่งทรงปัญญา ของ SETI
 
  ความสามารถและความเข้าใจ การสืบค้นอารยะธรรมสิ่งทรงปัญญา

หนึ่งในคำถาม ต่อการสืบค้นอารยะธรรมสิ่งทรงปัญญาอันไกลโพ้น คือ ปัจจุบันนี้
มนุษย์อยู่ในสถานะใดของพัฒนาการ และมนุษย์มีความสามารถสืบค้น อะไรบาง
อย่างของเทคโนโลยีในอารยะธรรมอื่น ซึ่งแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนหรือไม่ ?

นั้นหมายความว่า มนุษย์ต้องมีระบบเทคโนโลยีระยะไกล ข้ามระหว่างดวงดาว
จึงจะสามารถตอบสนองการสืบค้น สิ่งทรงปัญญาอารยะธรรมอื่นได้ ฟังดูเหมือน
เป็นสิ่งนามธรรม มนุษย์มีเพียงการกระทำ ในรูปแบบการสำรวจเท่านั้น

วิธีข้ามมิติ (Across the Dimensions) อาจเป็นเพียงในภาพยนต์ของวันนี้ แต่
ไม่แน่นักว่า อาจเป็นจริงขึ้นได้ในอีก 5,000-10,000 ปีข้างหน้า เทคโนโลยีดัง
กล่าวอาจช่วยให้มนุษย์มีสังคมขึ้นในจักรวาล และอยู่ในสถานะอารยะธรรมขั้น
สูงขึ้น แม้ว่าวันนี้มนุษย์เพียงเคยไปแค่ดวงจันทร์ก็ตาม
 
 
Sensitive Radiotelescope เพื่อโครงการสืบค้นสิ่งทรงปัญญา ของ SETI
 
  ยุทธศาสตร์การค้นหาสิ่งทรงปัญญา

ETIs (Extraterrestrial sources) หรือโลกอื่นอันไกลโพ้น สามารถค้นหาได้จาก
การตรวจจับค่าสัญญานได้ แต่สำหรับตัวตนสิ่งทรงปัญญา (Intelligence) จะไม่
สามารถตรวจจับได้ แต่สามารถอนุมานจาก Manifestation of a technology
(การแสดงให้เห็นจากเทคโนโลยี) ซึ่งเป็นการค้นหาอารยะธรรม ของโลกอื่นอัน
ไกลโพ้น ด้วยความก้าวหน้าขึ้นตามลำดับ

การสืบค้นยังต้องการความชัดเจนที่ดีที่สุด เพื่อค้นหาคำตอบของอารยะธรรมสิ่ง
ทรงปัญญา อย่างน้อยมนุษย์เริ่มเข้าใกล้คำตอบ 2 ประเด็นใหญ่คือ

1.จะต้องใช้เวลาอีกนานเท่าใด ที่มนุษย์จะเชี่ยวชาญด้านเทคนิค เรื่องอารยะธรรม
สิ่งทรงปัญญากว่าที่ผ่านมา
2.อารยะธรรมสิ่งทรงปัญญานั้น อยู่ไกลหรือใกล้กับมนุษย์เพียงใด

ยังมีคำถามมากมายที่รอคำตอบ จากจำนวนดาวมหาศาลที่กำลังสืบค้น ในประเด็น
นี้เงื่อนไขการสำรวจ มีความเป็นไปได้ต่อการรับทราบ สัญลักษณ์หรือรูปแบบของ
อารยะธรรมสิ่งทรงปัญญา คือ

1.มนุษย์สามารถสำรวจทราบบางอย่าง ด้านวัตถุทางกายภาพ (Physical artifact)
จากฝีมือ ของอารยะธรรมสิ่งทรงปัญญาได้

2.มนุษย์สามารถตรวจจับสัญญานที่สะท้อนมาจาก ของอารยะธรรมสิ่งทรงปัญญา
ได้ จากนั้นต้องมีการ ตรวจสอบสัญญานอย่างระมัดระวัง มองหาวัตถุทางกายภาพ
เพื่อการตัดสินใจ หาน้ำหนักด้วยเหตุผล ดำเนินในลำดับขั้นต่อไป ซึ่งมีความเป็น
ไปได้ ใน 2 แนวทาง คือ

1.ทดลองติดต่อไปยัง อารยะธรรมสิ่งทรงปัญญา ด้วยเครื่องมือที่มีอยู่
2.มองดูอย่างไม่แน่ใจ จากสัญญานที่รั่วหลุดกระทบออกมาของ อารยะธรรม
สิ่งทรงปัญญา

ข้อสรุปจากหลักเณฑ์ และความเป็นไปได้

เห็นได้ว่าขบวนการทางวิทยาศาสตร์ ได้ถูกวางไว้อย่างมีกฎเกณฑ์ มุ่งไปยังการ
สำรวจทางกายภาพ จากการตรวจสัญญาน ที่สะท้อนกลับมาจากระยะไกล ซึ่ง
สถาบัน SETI ได้รับการตอบโต้สัญญานกลับ มาเพียงครั้งเดียว ที่เรียกว่า Wow
อย่างน้อยเชื่อว่า มีความเป็นไปได้ในระดับหนึ่ง

การพัฒนาเครื่องมือ รวมกับเวลาที่รอคอยสัญญาน จากสิ่งทรงปัญญาอันไกลโพ้น
เป็นความหวังของมวลมนุษย์ที่จดจ้อง อยากทราบเรื่องราวเหล่านี้ เช่น

โลกอื่นอันไกลโพ้น อาจเต็มไปด้วยน้ำ เป็นแหล่งดำรงชีพของ ต้นกำเนิดสิ่งทรง
ปัญญาคล้ายกับปลาวาฬ หรือปลาโลมาเช่นบนโลก หรืออาจเต็มไปด้วยความร้อน
ของลาวาจากภูเขาไฟ มีสิ่งทรงปัญญาบางชนิด คล้ายกระดองคล้ายเต่า อาศัยอยู่
ท่ามกลางความร้อนระอุ และรังสีอันตราย อย่างมีความสุขเป็นปกติหรืออาจมีสิ่ง
ที่คล้ายงู แต่หัวเป็นจรเข้ซึ่งมีความ สามารถบินในอากาศได้ พร้อมทั้งมีวิธีหลบภัย
โดยมุดลงใต้พื้นผิวดิน

สิ่งทรงปัญญาทั้งหลาย ไม่จำเป็นต้องเหมือนหรือคล้ายมนุษย์ก็ได้ ซึ่งทั้งหมด
เพียงเป็นข้อสันษิฐาน ซึ่งเป็นสิ่งที่ห่างไกลจากความเข้าใจของเรา แม้เทคโนโลยี
ขณะนี้ยังไม่สามารถคัดแยกได้ แต่การอนุมาน เรื่องการเกิดขึ้นของสิ่งมีชีวิตบน
ดาวเคราะห์ ได้เข้าใกล้ความสำเร็จมากขึ้น จากความชัดเจนของด้านธรรมชาติ
ของวิชา ดาราศาสตร์ฟิสิกส์ (Astrophysics) เช่น เรื่อง พืชพันธ์ไม้จากต่างดาว
(Plants on Other Worlds) ซึ่งในอดีตมนุษย์ไม่เคยเข้าใจมาก่อนเลย เป็นต้น
 
 
พืชพันธ์ไม้ในอารยะธรรมอื่น ?
 
 
สิ่งทรงปัญญา ในอารยะธรรมอื่น ?
 
 
 
References :

SETI Institute
Eberly College of Science,
The Pennsylvania State University

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น