Deep sea : สำรวจใต้ทะเลลึก [หน้า 2/2]

 
   Deep sea : สำรวจใต้ทะเลลึก [หน้า 2/2]
 
 
ชื่อสามัญ : Re-plumed tube worms (ท่อหนอน)
หรือ Easter Island (รวมกันโผล่ออกมาจากหลุม)
---------------------------------------------------------
ชื่อทางวิทยาศาสตร์ : Ridgeia piscesae
แหล่งที่พบ : Northeast Pacific, Eastern Pacific
ระดับความลึก : +1800 ถึง +2800 เมตร
ขนาดสูง : 2 เมตร

ข้อสังเกต : เป็นลักษณะ ท่อห่อหุ้มหนอน (Vestimentiferan tubeworm) เกิด
จากระบบนิเวศใต้ทะเลลึก ที่มีสภาพแวดล้อม Hydrothermal
(สภาพน้ำร้อน) ได้
ไหลเข้าไปรวมกันของซากพืชและสัตว์ การสำรวจพบมีหลายสายพันธ์แตกต่างกัน
โดยภายในผนังท่อ มีแบคทีเรียและธาตุเหล็กสะสมอยู่รวมกัน
 
 
ชื่อสามัญ : Threadfin snailfish (ปลาหอยทาก ครีบเกลียว)
-----------------------------------------------------------------------
ชื่อทางวิทยาศาสตร์ : Careproctus longifilis
แหล่งที่พบ : Northern Pacific,
ระดับความลึก : +1900 ถึง +2997 เมตร
ขนาด : 15 เซนติเมตร

ข้อสังเกต : ลำตัวเรียวยาว คล้่ายลูกอ๊อด ส่วนครีบเหมือนถูกต่อเติมด้วยลายถัก
ของหวาย ส่วนหัวโตแต่ตาเล็ก หางเรียวแหลมช่วยให้ว่ายน้ำลึก อย่างคล่องตัว
บริเวณผิวเป็นเหมือนเกล็ดวุ้นเล็กๆ
 
 
ชื่อสามัญ : ไม่ปรากฎ
--------------------------
ชื่อทางวิทยาศาสตร์ :
แหล่งที่พบ :
ระดับความลึก : +2000 เมตร
ขนาด : 2 เซนติเมตร

ข้อสังเกต :
 
 
ชื่อสามัญ : Black-eyed squid (ปลาหมึกตาดำ)
หรือ Clawed armhook squid (ปลาหมึกหนวดตะขอ)
--------------------------------------------------------------
ชื่อทางวิทยาศาสตร์ : Gonatus onyx
แหล่งที่พบ : Northern Pacific Ocean ( Japan ถึง California)
ระดับความลึก : +2500 เมตร
ขนาด : 18-35 เซนติเมตร

ข้อสังเกต : เพศเมียจะวางไข่ในน้ำลึก 1500-2500 เมตร แต่ละครั้งราว 2000-
3000 ฟอง โดยจะอุ้มไข่ไว้ในแอ่งใกล้ปาก จรดปลายหนวดทำให้มองเหมือนใช้
ตะขอเกี่ยวอุ้มไข่ไว้
 
 
ชื่อสามัญ : Ping pong tree sponge (ฟองน้ำทะเล ต้นลูกปิงปอง)
---------------------------------------------------------------------------
ชื่อทางวิทยาศาสตร์ : Chondrochladia Lampadiglobus
แหล่งที่พบ : Antarctica
ระดับความลึก : +2600 ถึง + 3000 เมตร
ขนาด : สูง 50 เซนติเมตร

ข้อสังเกต : มีลักษณะมีก้านยึดเหนี่ยวกับหลัก (ลำต้น) และมีผลหรือดอกเป็น
ลูกกลม ซึ่งเป็นพวกเดียวกับสกุล Poecilosclerida เกิดขึ้นเมื่อ 2 ล้านปีที่แล้ว
ปัจจุบันพบหลักฐานเพียงฟอสซิล
 
 
ชื่อสามัญ : Comb jellies (หวี วุ้น)
---------------------------------------------
ชื่อทางวิทยาศาสตร์ : Ctenophora
แหล่งที่พบ : Marine waters worldwide
ระดับความลึก : +4000 เมตร
ขนาด : 20-150 มิลลิเมตร

ข้อสังเกต : ลักษณะเหมือนวุ้นใส แพลงก์ตอน ว่ายน้ำด้วยการกรรเชียงใช้ส่วน
ที่อยู่ด้านข้างลำตัว มีลักษณะคล้ายหวี ซึ่งประกอบเป็นเส้นขนเล็กๆเป็นกลุ่ม
จำนวนมาก (คล้ายกับเส้นผมโผล่ออกมา จากแผ่นเยื่อของลำตัว)

ลักษณะเฉพาะของหวีวุ้น คือ มีแผ่นหวี จำนวน 8 แถบ บนแถบ มีซี่หวีเรียงแถว
ช่วยในการว่ายน้ำและพยุงตัว รูปลำตัวมีความกลม ไม่มีหนวด หรือสิ่งที่จะคอย
จับเยื่อ แต่ใช้วิธีดูดอาหารเข้าสู่ร่างกาย

มีความสวยงาม เมื่อเกิดการหักเหของแสง ซึ่งผ่านจากของใสอย่างหนึ่ง ไปสู่ของ
ใสอีกอย่างหนึ่ง โดยแสดงสีสรร ขณะกำลังเคลื่อนตัวไปในน้ำหรือถูกรบกวน

 
 
ชื่อสามัญ : ไม่ปรากฎ (บางกรณีเรียก แมงกระพรุน UFO)
------------------------------------------------------------------
ชื่อทางวิทยาศาสตร์ : Hydrozoa Benthocodon
แหล่งที่พบ : Monterey Canyon : Northeast Pacific, Northwest Atlantic
ระดับความลึก :
ขนาด : 4 เซนติเมตร

ข้อสังเกต : ประเภทแมงกระพรุนขนาดเล็ก มีพลังการว่ายน้ำด้วยแรงช่วยจาก
ก้นด้านล่าง เส้นหนวดซ้อนกันโดยรอบตัว มีราว 1000-2000 เส้น ด้านบนมีฝา
ครอบใสโดยมีช่องว่าง ขอบรอบมีสีแดงเข้ม มองเห็นโปร่งใสถึงภายใน รูปร่าง
คล้ายกับกำลังกางร่ม

 
 
 
 
ใต้ทะเลลึก มีทั้งสิ่งสวยงาม และสิ่งน่ากลัว แต่มนุษย์ยังไม่ทันรู้จัก สิ่งที่อยู่ใต้
ทะเลได้ครบถ้วน ทะเลก็เริ่มถูกทำลาย จากผู้คนบนฝั่งอย่างรู้เท่าไม่ถึงการณ์
และขาดความรับผิดชอบต่อธรรมชาติ

ใต้ทะเล มีประชากรสัตว์ พืช เป็นจำนวนไม่น้อยไปกว่าบนบก และเป็นแหล่งของ
ทรัพยากรอาหาร สามารถเลี้ยงดูมนุษย์ทั้งโลก โดยไม่ต้องฟูมฝักอุ้มชูสัตว์เหล่า
นั้นเลยแม้แต่น้อย ทุกอย่างที่อาศัยอยู่ในทะเล เติบโตเป็นไปตามกลไกธรรมชาติ
เมื่อถึงเวลา มนุษย์เพียงแต่ลงไปตักตวงมาเป็นอาหาร

ใต้ทะเล เป็นสินทรัพย์ธรรมชาติ ที่มนุษย์ไม่ต้องลงทุน แต่กลับถูกมนุษย์ทำลาย
คงบอกได้ว่า ครั้นหนึ่งบนดาวอังคาร มีพื้นน้ำมหาสมุทรมากว่าบนโลก แต่บัดนี้
ได้เหือดหายไปสิ้นแล้ว ขณะนี้พบว่ามีทะเลน้ำแข็งบน ดวงจันทร์ยูโรปา แต่เมื่อ
ใดมนุษย์จึงจะเดินทางไปถึง ดังนั้นมนุษย์ควรทำอย่างไรดีกับทะเลบนโลก ?
 

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น