สืบค้นระบบจักรวาล : Mission to Universe [หน้า1/2]

 
   สืบค้นระบบจักรวาล : Mission to Universe [หน้า1/2]
 
 
 
สิ่งที่มนุษย์ ต้องการทราบเรื่องค้นหาระบบที่แท้จริง ของจักรวาล นั้นมีมากมาย
จำเป็นต้องหาหลักฐาน มาอ้างอิงทางวิทยาศาสตร์ เช่น

จักรวาลจะขยายตัวต่อไปอย่างไม่สิ้นสุด หรือจะพังทลายลง ?
จักรวาลถูกปกคลุมด้วยอำนาจลึกลับของ สสารมืด ?
จักรวาลมีรูปทรงสันฐานแบบไหน ?
กาแล็คซี่แรก ของจักรวาลก่อตัวขึ้นเมื่อใด ?
การขยายตัวของจักรวาลมีอัตราเร่งขึ้น หรือลดลง ?

และอีกหลายประเด็น.......................
จักรวาลมาจากไหน ?
และมีจักรวาลอื่นๆ อีกหรือ ?

ทุกคำถามอาจมีคำตอบที่ยังไม่สมบูรณ์ เพราะ การวิวัฒน์สืบเนื่องของจักรวาล
ที่ผ่านจากอดีตมีความซับซ้อน แปลกประหลาด เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นยาวนานก่อน
มนุษย์กำเนิด การอธิบายด้วยศาสตร์ ที่มนุษย์ยอมรับและเข้าใจได้ ยังเป็นเรื่อง
ยาก เหตุเพราะมีเหตุผลเกี่ยวพันกันในหลายมิติ

บางครั้งขึ้นอยู่กับ ความหมายว่า จักรวาลวิทยา มีองค์ประกอบของศาสตร์ใดและ
ใครเป็นผู้อธิบาย จึงล่อแหลมต่อความเข้าใจ แต่คงไม่ได้ผิดทั้งหมดหรือถูกทั้งหมด ทั้งนี้เพราะ ไม่เคยมีใครเคยเห็นเหตุการณ์นั้น หรือหากเห็นจะเข้าใจหรือไม่ ?
 
 
คำตอบเรื่องจักรวาล อยู่ที่ไหน ?
 
 
An all-sky Maps of the Cosmos
 
 
พยานหลักฐานสนับสนุนThe Big Bang theory

ในทฤษฎี Big Bang มีนัยแสดงให้ทราบว่า อดีตจักรวาลมีความร้อนและความหนา
แน่นของ ของไหล (Dense fluid) มีอุณหภูมิสูง 2967 Kelvin (4880 F) ระหว่าง
300-8,000 ปี หลังการระเบิดครั้งใหญ่เต็มไปด้วย ละอองของ Hydrogen เหมือน
มหาสุมทรร้อน

พลังงาน Protons และ Electrons ความร้อนของก๊าซเปล่งออกมา อนุภาคของ
แสงกระเจิงออกและถูกดูดกลืนกลับ ท้ายที่สุดกลายเป็น Cosmic microwave background radiation (การแผ่คลื่นรังสีไมโครเวฟบนพื้นหลัง) ของจักรวาล

แม้ว่าเป็นเวลาที่ยาวนาน ก่อนกำเนิดโลกและมนุษย์ ละอองก๊าซเหล่านั้นยังหลง
เหลืออยู่จากความแข็งแกร่ง ที่มีปฎิกิริยาต่อกันของ Protons และ Electrons
โดยเฉพาะ Protons มีคุณสมบัติแสดงในของไหล

ของไหลนั้น มีส่วนเกี่ยวข้องกับคลื่นเสียง (Sound waves )จากการเคลื่อนที่ของ
ก๊าซ จึงสามารถสืบค้นบริเวณพื้นที่ ที่มีความร้อนสูง ในทางกายภาพของก๊าซจาก
อดีตจักรวาลด้วย The CMB Radiation ตรวจจับบันทึกซากการแผ่รังสีที่เหลืออยู่
ครั้นดึกดำบรรพ์ ของคลื่นเสียง

ภูมิหลังของ Cosmic background radiation

ขณะที่จักรวาลขยายตัว พื้นที่ถูกก่อกวนด้วยอุณหภูมิความร้อนสูง 2,967 Kelvin
โดย Protons และ Electrons รวมตัวกันสร้าง Neutral hydrogen และ Hydrogen ทั้งหมดซ่อนเร้นสภาพโปร่งแสง (Transparent) ในพื้นที่ Cosmic background
radiation อย่างสมบูรณ์และอิสระไม่มีกฎเกณฑ์ใดๆ

สามารถอุปมาได้ว่า ขณะที่มองท้องฟ้ามีเมฆ Microwave background radiation
ก็จะเห็นภาพในทำนองเดียวกัน ละอองน้ำทำให้แสงกระเจิง เช่นเดียวกับ Free
electrons ทำให้ Photons ของ Cosmic background radiation กระเจิง

ซึ่งละอองน้ำมีความโปร่งใส มองเห็นได้ ในทำนองเดียวกันกับ Neutral hydrogen
ที่มีรูปแบบโปร่งใสซ่อนอยู่ใน Cosmic background radiation คล้ายเป็นร่องรอย
รอยพิมพ์ (Imprinted) ถูกประทับไว้ในอวกาศ ขณะเวลานั้น
 
 
The Wilkinson Microwave Anisotropy Probe (WMAP) เครื่องมือที่ใช้ในการสำรวจ
 
 
เป็นการสำรวจ พื้นที่หลังจากเกิด Big bang ขึ้นมาแล้ว 380,000 ปี
 
 
คลื่นในสนามแรงโน้มถ่วง (Gravitational)
 
 
เหตุการณ์ การสืบค้นหาหลักฐานในจักรวาล

ข้อมูลการตรวจจับอุณหภูมิ ของ The CMB Radiation พบว่าจักรวาล มีความไม่
แน่นอน ในรูปแบบการเรืองออกมาของความร้อน ขึ้น ๆลงๆ (Variations) หรือ
แกว่งไปมา (Fluctuations) ทั่วตลอดท้องฟ้าของอวกาศ คล้ายการกระเพื่อมของ
คลื่นไหลเป็นระลอก

มีจำนวนที่มีผลกระทบจากอุณหภูมิ ในระดับคลื่น Microwave background มีการ
กระเพื่อมตัวในความหนาแน่น หรือมีอัตราเร่ง ของก๊าซที่ผิวหลังการกระเจิงออกมา
เช่น คลื่นเสียง

มีการกระเพื่อมตัว ในแรงโน้มถ่วงจากศักยภาพของจักรวาล ในเส้นทางยาวของ
Photon ปรากฎการณ์ทางกายภาพ มีความแปลกประหลาด ตอบสนองแต่ละกรณี
ที่เกิดขึ้น

หนึ่งในตัวอย่างขนาดใหญ่มาก (Largest length scales) แหล่งความร้อนที่แกว่ง
ไปมามีการกระเพื่อมอย่างแข็งแกร่ง ของสนามแรงโน้มถ่วง (Gravitational) หลัง
หลังจากกระเจิง โดย Photon ตะกายตัวออกนอก ศักยภาพของแรงโน้มถ่วงทำให้
ตนเองสูญเสียพลังงาน ให้แผ่รังสีหรี่ลงหรือเย็นลง และหมุนพลิกกลับหัว (Vice-versa)

หนึ่งในตัวอย่าง ในมุมขนาดเล็กมาก (Smaller angular scales) พบรอยประทับ
ของคลื่นเสียง ที่เคลื่อนไหวตลอดทางของ ละออง Hydrogen gas จากการคืนตัว
ของ Protons และ Electrons โดย Protons แสดงคุณสมบัติเป็นของไหลก่อน
เหตุการณ์

การกระเจิงตัวในพื้นที่ที่มีความหนาแน่น ของ Protons และ Electrons สูงกว่าปกติ จึงมีความกดดันของคลื่นเสียง ดังนั้นบริเวณพื้นที่ดังกล่าวมี Protons หนาแน่นสูง
และหมุนพลิกกลับหัว

เมื่อการแผ่รังสีขาดคู่ จาก Hydrogen gas ในเวลาหลังการกระเจิง คลื่นจึงเกิด
Freeze out (เปลี่ยนรูปแบบ) เพราะก๊าซสูญเสียความสามารถ สนับสนุนคลื่น
เปิดช่องให้มีแหล่งความกดดัน หรือ Stiffness (การคงรูป) ซึ่งเป็นบริเวณสว่าง
หรือร้อนกว่าปกติ และหมุนพลิกกลับหัว
 
 
Geometry of the Universe
 
 
เสียงสะท้อนของจักรวาล

นักจักรวาลวิทยาเชื่อว่า คลื่นเสียงนั้นเป็นสิ่งที่รวมใน Hydrogen gas ในการตอบ
สนอง การแกว่งไปมาของสนามแรงโน้มถ่วง (Gravitational) ก่อขึ้นระยะสั้นๆ หลัง
จากเกิด Big Bang โดยมีอายุได้ไม่เกิน 380,000 ปี และมีข้อจำกัดของระยะทาง
เพราะแกว่งไปมา ตลอดเวลา

หลังจากเกิด Freeze out ระยะทางดังกล่าว เรียกว่า Sonic horizon (ความเร็ว
เสียงข้ามขอบฟ้าจักรวาล) ซึ่งก่อขึ้นจากมูลฐานดั้งเดิม ของจักรวาลยุคแรกเริ่ม

หนึ่งในยอดคลื่นเสียง (Largest peak) มี Spectrum ลงรอยกับ Sound waves
การเริ่มเกิดช่วงแรกของ Freeze out มีช่วงความถี่ต่ำมากของคลื่นเสียง (Very
low frequency sound waves) โดยจะบรรลุผลยอดเสียงแหลม ลงรอยกับคลื่น
ความถี่สูง (Higher frequency waves) สลับกันเป็นลูกคู่ ช่วงหลังจากการกระเจิง
ที่ความกดดันเบาบางลง ความสัมพันธ์ที่สูงของยอดเสียงสูง เป็นแหล่งเครื่องหมาย
บอกถึงศักยภาพของก๊าซหลังจากกระเจิง

ภูมิประเทศของจักรวาล

โดยทั่วไปบนพื้นโลก สามารถมองทิวทัศน์ภูมิประเทศได้เข้าใจง่าย สำหรับพื้นที่
จักรวาล มีขนาดใหญ่โต จำเป็นต้องใช้ Concept Animations ประกอบสำหรับ
การอธิบาย เรียกว่า Geometry of the Universe (รูปทรงเรขาคณิตของจักรวาล)
จะเข้าใจง่าย ซึ่งแตกต่างจากรูปทรงเรขาคณิตบนกระดาษ

ด้วยทั้งหมด ของจักรวาล มีสสารมืดและพลังงาน (Dark matter and energy)
เป็นส่วนใหญ่ จึงมีผลต่อบทบาท ของรูปทรงจักรวาล ด้วยหนาแน่นของสสารและ
พลังงานในอวกาศ

ถ้าจักรวาลมีความหนาแน่นน้อยจะมีลักษณะเปิด พื้นผิวเหมือนรูปทรงของ อานม้า
(Saddle) ถ้าจักรวาล มีความหนาแน่นปานกลาง หรือพอดี รูปทรงจะคล้ายแผ่ราบ
เหมือนแผ่นกระดาษ (Flat ) แต่ถ้าจักรวาลมีความหนาแน่นสูงมากจะมีลักษณะปิด
พื้นผิวเหมือนรูปทรงกลม (Sphere)

The Inflationary Theory (ทฤษฎีที่อธิบายถึง สสารและพลังงานขยายตัวจากจุด
การระเบิดเริ่มต้นจักรวาลภายในเศษส่วนของวินาที) เป็นการอธิบายต่อจาก Big
Bang theory ให้คำนายในเชิง มีความวิกฤติจากความหนาแน่น จากผลของของ
Flat universe
 
  คลิกดู Concept Animations
 
 
Geometry of the Universe
 
 
Geometry of the Universe
   
 
Electrons ที่เพิ่มขึ้น ในจักรวาล

คุณสมบัติคลื่นเสียง จากจักรวาลยุคต้น ไหลเวียนไปตามแต่จะเกิดความสัมพันธ์
ที่หนาแน่นกับ Photons – Atoms และ Dark matter และจำนวนมากของอะตอม
เหล่านั้นมีความแข็งแกร่ง ตอบสนองต่อสนามแรงโน้มถ่วง (Gravitational)

โดยอิทธิพลการฉุดดึงของสสารมืดยิ่งเพิ่มพูน เป็นผลให้เกิดลดการสะท้อนเสียง
ยอดคลื่นเสียง จาก Photon-atom ไหลท่วมไปยังพื้นที่ที่หนาแน่น มีความกดดัน
ของสสารมืด พร้อมกับระงับอำพรางเสียงสะท้อน จากการไหล เคลื่อนตัวออกไป
ด้านนอก

การเพิ่มขึ้นเป็นอัตราส่วน ของ Electrons (และ Protons) ส่งผลให้สั้นลงของระยะ
ห่าง Protons และความเร็วของเสียงต่อการไหล ถ้าเกิดการไหลช้าลง จะเกิดการ
แกว่งของระยะและมุมที่เล็กลง
 
 
Photons
 
 
การไหลท่วม ฟุ้งกระจายตัวของ Electron

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น