จักรวาลที่มองไม่เห็น : Invisible universal [หน้า 2/2] | ||
| ||
นับเป็นสิ่งที่มีค่ายิ่งต่อการทดลอง ในห้องปฎิบัติการจักรวาลวิทยา เพื่อทดสอบ หลักเกณฑ์จาก General relativity (ทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไป) ช่วงปฐมภูมิของ อนุภาคในพิสัยช่วงแสดงพลังงาน แสดงให้ปรากฎในห้องทดลองบนโลก เป็นสิ่งที่รอคำตอบทางวิทยาศาสตร์ และเป็นหนึ่งในสิ่งที่เกี่ยวข้องกับสาระบบการ กระตุ้นพลังงานในจักรวาล (Energetic content of the Universe) ซึ่งมีความแม่น ยำสูง โดยจักรวาลทำให้เกิดขึ้นได้อย่างไร เราคงไม่ยอมรับรู้เพียงการตรวจสอบอายุ ที่ผ่านมาของจักรวาล หรือระยะพัฒนา การของจักรวาลต่อไปในอนาคตเท่านั้น แต่เราต้องทราบคำตอบเรื่อง ขอบเขต รูปร่างที่เริ่มต้น (Finiteness) และจุดจบที่สมบูรณ์แบบ (Final end) ของจักรวาล เรื่องราวอดีตของจักรวาล ยอมรับในเชิงรูปทรงเรขาคณิต โดยเฉพาะการกระตุ้น สารระบบพลังงานแบบคงที่ (Fixed energetic content) เท่านั้น ซึ่งถ้ามีการสมมูล (Equivalence) กันระหว่าง สารระบบพลังงานและพื้นที่ของ กาลอวกาศ (Space- time properties ) ของจักรวาลได้ อย่างน้อยวิชาจักรวาลวิทยาจะแสดงผลข้อมูล การสำรวจอดีตของจักรวาล และความเป็นอยู่ปัจจุบันของ สสารมืด-พลังงานลึกลับ ด้วยศาสตร์ใหม่ |
| ||
| ||
| ||
| ||
| ||
แนวทางแก้ปริศนาของมนุษย์ ทางวิทยาศาสตร์ โดยกำหนดแนวทางการสำรวจ วิเคราะห์ เพื่อสรุปความไปสู่ การแก้ปริศนา เรื่องจักรวาลที่มองไม่เห็น ดังนี้ Observational Astrophysical Aspect of dark energy and dark matter การสำรวจตำแหน่งที่ปรากฎสัมพันธ์กันของ สสารมืดและพลังงานลึกลับ ด้านฟิสิกส์ดาราศาสตร์ Experimental particle physics aspects of dark matter การทดลองทางฟิสิกส์ ของอนุภาคตำแหน่งที่ปรากฎสัมพันธ์กันของสสารมืด Gravitation and cosmology (Quantum gravity - M-Theory and cosmology) ความโน้มถ่วง และจักรวาลวิทยา (แรงโน้มถ่วงแควมตัน - ทฤษฎี M และจักรวาลวิทยา) Inhomogeneous universes and backreaction ความไม่เป็นเอกพันธ์ และ ปฎิกิริยาพื้นหลังของจักรวาล Dark energy as a new energy component ส่วนประกอบใหม่ของ พลังงานลึกลับ Dark matter candidates การคัดสรร เลือกสสารมืด Dark energy and Dark Matter as modified gravity การปรุงแต่งของความโน้มถ่วงจาก สสารมืดและพลังงานลึกลับ |
| ||
| ||
ความหมายที่สำคัญกว่านั้น หากสามารถเปิดโฉมหน้า สสารมืดและพลังลึกลับที่ปิดบังมิติของจักรวาลออกไป ได้ด้วยทางวิทยาศาสตร์ สิ่งที่มนุษย์พบเห็นนั้น อาจต้องงงวยถึงความแปลกและ ประหลาดพิศดารมากขึ้นไปอีกลำดับ สิ่งที่ซ่อนเร้นนั้น อาจแทบอธิบายทางวิทยาศาสตร์ยากยิ่งขึ้นไปอีก หลายทฤษฎี เก่าแก่ที่ไม่ยอมรับของนักปรัชญา จำต้องนำขึ้นมาปัดฝุ่นใหม่ เพื่อแก้ข้อกังขา เพราะการเข้าใกล้รากฐานการกำเนิดจักรวาล ด้วยการเห็นแม้ไม่น่าเชื่อแต่เป็นไป ได้มากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม นักวิทยาศาสตร์คงไม่ได้ตั้งเป้าประสงค์ เพียงรู้จักและทำความเข้า ใจเรื่อง สสารมืด พลังลึกลับ หรือต้นทางกำเนิดจักรวาล รวมถึงจุดจบของจักรวาล อย่างแท้จริงว่าจะเป็นอย่างไร แต่คงอยากที่จะรู้ว่ามิติอื่นในจักรวาลนั้นมีจริงตาม ทฤษฎีหรือไม่ หากมีมิติเหล่านั้นมีระบบเหมือนเราหรือไม่ และจะเชื่อมโยงกันได้ อย่างไร และอาจต้องรวมนิยาม จักรวาลวิทยา ขึ้นใหม่ |
References: HETDEX - McDonald Observatory - University of Texas at Austin Albert Einstein Institute Cornell Center for Advanced Computing (CAC) University of Chicago |
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น