ขนาดของจักรวาล : Scale of the Universe [หน้า 3/3]

 
    ขนาดของจักรวาล : Scale of the Universe [หน้า 3/3]
 
 
 
 
เข้าสู่การสำรวจ ระยะ 500,000 ปีแสง

สู่นอกอาณาเขตของทางช้างเผือก ระยะ 500,000 ปีแสง มองเห็นกาแล็คซี่ที่เรา
อาศัยอยู่ เหลือเล็กนิดเดียว บริเวณจุดศูนย์กลางระยะ 500,000 ปีแสง มีดาวอยู่
ประมาณ 225 พันล้านดวง กาแล็คซี่ขนาดใหญ่ 1 แห่ง (คือทางช้างเผือก) และ
กาแล็คซี่แคระ (Dwarf Galaxies) อีก 40 แห่ง เรียกว่าเป็น กาแล็คซี่เพื่อนบ้าน
(Local group galaxy) เช่น

Large Magellanic Cloud (LMC) เป็นกาแล็คซี่รูปทรงผิดปกติ (Irregular
Galaxy) มีมวลมากกว่าดวงอาทิตย์ 10 พันล้านเท่า เส้นผ่าศูนย์กลางราว 14,000
ปีแสง ระยะทางห่างจากโลก 160,000 ปีแสง มีจำนวนดาว 150-200 ล้านดวง

Small Magellanic Cloud (SMC) เป็นกาแล็คซี่รูปทรงผิดปกติ (Irregular
Galaxy) มีมวลมากกว่าดวงอาทิตย์ 7 พันล้านเท่า เส้นผ่าศูนย์กลางราว 7,000
ปีแสง ระยะทางห่างจากโลก 170,000 ปีแสง มีจำนวนดาว 100 ล้านดวง
 
 
 
 
 
Fornax Dwarf Spheroidal เป็นกาแล็คซี่แคระทรงรี (คล้ายรูปทรงไข่)
เชื่อว่าเป็นการรวมตัวกันของ 6 กระจุกดาว ทำให้มีขนาดใหญ่ เส้นผ่าศูนย์กลาง
ราว 8,400 ปีแสง ระยะทางห่างจากโลก 460,000 ปีแสง
 
 
  เข้าสู่การสำรวจ ระยะ 5,000,000 ปีแสง

มีอาณาเขตรวม จำนวน 3 กาแล็คซี่ คือ Milky Way Galaxy (กาแล็คซี่ของเรา)
Andromeda Galaxy ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านของเรา ถัดไปคือ Triangulum Galaxy
และกาแล็คซี่ แคระราว 46 แห่ง มีดาวรวมกัน 8,000 พันล้านดวง

Andromeda Galaxy ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 120,000 ปีแสง อยู่ห่างจากโลก
2.4 ล้านปีแสง การสำรวจครั้งใหม่ ค.ศ.2006 มีจำนวนดาว 1,000 พันล้านดวง

Triangulum Galaxy ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 50,000 ปีแสง อยู่ห่างจากโลก
3 ล้านปีแสง
 
 
 
 
การเข้าไปใกล้ แกนด้านในกาแล็คซี่ จะพบ ดาวเกิดใหม่ (Stars Birth) จำนวนนับ
ไม่ถ้วนอย่างต่อเนื่อง การเกิดขึ้นแต่ละครั้งอาจมีจำนวนอาจมีจำนวนนับร้อยนับพัน
ไปพร้อมกัน เนื่องจากมีพื้นที่กว้างใหญ่

แต่เดิมการสำรวจดาวใหม่ เป็นเรื่องยาก เพราะจะฟักตัวในกลุ่มเมฆหนาทึบของ
อวกาศ จึงถูกบดบังด้วยกลุ่มฝุ่นหมอก (ฝุ่นหมอกอวกาศเป็นวัตถุดิบให้ดาวฟักตัว)
และแสงสว่างจัดจากดาวข้้างเคียง แต่ปัจจุบันสามารถใช้เทคนิคฝ่าทะลุสิ่งขวาง
กั้นเหล่านั้นได้ จึงทำให้ พบดาวที่อยู่เบื้องหลัง ลึกเข้าไปอีกได้
 
 
 
เข้าสู่การสำรวจ ระยะ 100 ล้านปีแสง

เป็นอาณาเขตยิ่งกว้างใหญ่ไพศาลขึ้นไปอีก ซึ่งประกอบด้วย
กาแล็คซี่ (Galaxy) จำนวน 200 กาแล็คซี่
กาแล็คซี่ขนาดใหญ่ (Large galaxies) จำนวน 2,500 กาแล็คซี่
กาแล็คซี่แคระ (Dwarf galaxies) จำนวน 50,000 กาแล็คซี่
ดาว (Star) จำนวน 200 พันพันล้านดวง
 
 
 
 
  เข้าสู่การสำรวจ ระยะ 1 พันล้านปีแสง

เป็นอาณาเขตยิ่งกว้างใหญ่ไพศาลขึ้นไปอีกมากหลายเท่า ซึ่งประกอบด้วย
กระจุกกาแล็คซี่ (Superclusters) จำนวน 100 กระจุก
กาแล็คซี่ (Galaxy) จำนวน 240,000 กาแล็คซี่
กาแล็คซี่ขนาดใหญ่ (Large galaxies) จำนวน 3 ล้านกาแล็คซี่
กาแล็คซี่แคระ (Dwarf galaxies) จำนวน 60 ล้านกาแล็คซี่
ดาว (Star) จำนวน 250,000 พันพันล้านดวง
 
 
 
 
 
ถึงวาระสุดทาง การสำรวจขนาดจักรวาลระยะ 14 พันล้านปีแสง

The Hubble Deep Field ภาพถ่ายจักรวาลระยะทางราว 5-10 พันล้านปีแสง
แสดงให้เห็น ความแน่นหนาของกลุ่มกาแล็คซี (บางส่วน) โดยในห้วงระยะทาง
ไกลโพ้นประกอบด้วย

กระจุกกาแล็คซี่ (Superclusters) จำนวน 10 ล้านกระจุก
กลุ่มกาแล็คซี่ (Galaxy groups) จำนวน 25 พันล้านกลุ่ม
กาแล็คซี่ขนาดใหญ่ (Large galaxies) จำนวน 350 พันล้านกาแล็คซี่
กาแล็คซี่แคระ (Dwarf galaxies) จำนวน 7 พันพันล้านกาแล็คซี่
ดาว (Star) จำนวน 30 พันล้าน- พันพันล้านดวง

*ทั้งนี้ยังไม่รวม ดาวเคราะห์ ดวงจันทร์ วัตถุอื่นๆ ในระบบสุริยะอื่น เหตุเพราะ
  ยังสำรวจยากจากระยะไกล และแสงสว่างน้อย มีขนาดเล็ก (เชื่อว่ามีจำนวนกว่า
  1,000 เท่า ของจำนวนดาวในจักรวาล และยังไม่รวมวัตถุที่ไม่สามารถมองเห็น
  แบบ Visible เช่น หลุมดำ (Black Hole) เนบิวล่า (Nebula) เป็นต้น
 
 
 
เมื่อจักรวาล มีขนาดลึก 14 พันล้านปีแสง ทางช้างเผือกมีขนาด 100,000 ปีแสง
โลกมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางเพียง 6,300 กม. แล้วตัวเรามีขนาดสัดส่วนเท่าไร ? เมื่อเทียบกับขนาดทั้งหมดของจักรวาล ที่เราอาศัยอยู่ เพราะเราก็คือส่วนหนึ่งของ
จักรวาลด้วย

เรายังตั้งสมมุติฐาน ไว้อีกว่ามีจักรวาลอื่นอีกหรือไม่ (Another universe) ?
และถ้ามีจะมีอีกกี่จักรวาล ? แต่ละจักรวาลจะมีขนาดเท่าใด ?
และแต่ละจักรวาลมีอีกกี่มิติ (Invisible universal) ที่มองไม่เห็น ?
 
 
 
ภาคผนวช :

ตัวเลขโดยฐานข้อมูลกลางสำหรับการศึกษาวัตถุในอวกาศ
NASA/IPAC Extragalactic Database (NED)
Updated เมื่อเดือนตุลาคม 2007 มีจำนวนบันทึกไว้อย่างเป็นทางการดังนี้

ประเภทวัตถุทั่วไป (Object) จำนวน 10,100,000 วัตถุ

ประเภทวัตถุประเภทคลื่นชนิดต่างๆ
(Multiwavelength object cross-IDs)
จำนวน 15,500.000 วัตถุ

ประเภทรอตรวจสอบแยกประเภท (Candidate cross-IDs)
จำนวน 1,880 วัตถุ

ข้อมูลการตรวจด้วยคลื่นรังสี (Redshifts)
จำนวน 1,400,000 วัตถุ

ข้อมูลวัดขนาดด้วยการเทียบแสง (Photometric measurements)
จำนวน 38,800,000 วัตถุ

ข้อมูลขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของวัตถุ (Diameter measurements)
จำนวน 6,200,000 วัตถุ

ข้อมูลอ้างอิงบันทึก รายงานในวารสารต่างๆ (Refereed journal articles)
จำนวน 4,500,000 วัตถุ

ภาพถ่ายและแผนที่ (Images & maps) จำนวน 2,300,000 ชิ้น

บันทึกช่วยจำ (Notes) จำนวน 6,500 ชิ้น

บันทึกแบบนามธรรม (Abstracts) จำนวน 4,400 ชิ้น

ข้อมูลวิเคราะห์การแยกเงาของวัตถุ (Spectra) จำนวน 5,200 ชิ้น

แม้ว่าข้อมูลบันทึกอย่างเป็นทางการ รวมกว่า 70 ล้่านชิ้น นักจักรวาลวิทยาและ
นักสำรวจทางดาราศาสตร์ ต่างทราบดีว่า อย่างไรก็จัดไม่หมด จดไม่ทัน เพียงแต่
การตั้งชื่อดาวที่พบในอดีต นับร้อยปีของนักดาราศาสตร์โบราณ และปัจจุบันนี้
ต้องตั้งเป็นรหัสตัวเลข เพราะนึกชื่อไม่ทัน นับล้านดวง

แต่ตัวเลขข้อมูลเป็นทางการจำเป็นต้องวิเคราะห์ องค์ประกอบในหลายประเด็น
เพื่อเป็นผลทางวิทยาศาสตร์ที่ชัดแจ้ง ให้กับนักสำรวจอวกาศรุ่นหลัง ได้รับข้อมูล
สมบูรณ์ที่สุด เพราะทุกอย่างมีอยู่จริง จำนวนมหาศาลและน่าตกใจ

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น